วันที่ 30 สิงหาคม เวลา 09.00 น. การประชุมสมัชชาใหญ่ของสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเซีย (25th AVC General Assembly) ณ ชั้น 8 ห้อง Pavilion A โรงแรมเดอะ แกรนด์ โฟว์วิงส์ คอนเวน เป็นการประชุมในวันที่ 2 โดยสาระสำคัญของการประชุมได้แก่ การเลือกตั้งประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชียคนใหม่
การเลือกตั้งในครั้งนี้มีผู้เข้าชิงตำแหน่งด้วยกันทั้งสิ้น 2 คนได้แก่ มิสเตอร์รามอน ซูซาร่า นายกสมาพันธ์วอลเลย์บอลแห่งฟิลิปปินส์ และ มิสเตอร์อาลี กรานิม อัล คูไวรี่ นายกสมาคมวอลเลย์บอลแห่งกาตาร์ ซึ่งผลปรากฎว่า มิสเตอร์รามอน ซูซาร่า ได้รับคะแนน 48 และ มิสเตอร์อาลี กรานิม อัล คูไวรี่ ได้รับคะแนน 15 เสียงจาก 65 ประเทศ ทำให้ มิสเตอร์รามอน ซูซาร่า รับตำแหน่งประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชียคนใหม่
นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประไทยเผยว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นที่ประทับใจกับผูัที่เข้าร่วมประชุม โดยเฉพาะประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ โดยใช้วิถีแบบไทย
ส่วนของการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 ทางเอฟไอวีบียืนยันจะให้เป็นประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ แต่ทั้งนี้ยังต้องรอความเห็นจากรัฐบาล เนื่องจากต้องใช้งบประมาณที่สูงในการจัด
“สรุปการประชุม ภาพรวมก็เป็นที่พอใจของประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (ดร. อาลี กาซ่า) และประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชีย การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในครั้งนี้ก็ทำหน้าที่ได้อย่างดี ทั้งเรื่องของการจัดประชุม การดูแลอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ตลอดจนเรื่องของการต้อนรับโดยใช้วิถีไทย เป็นแนวทางในการจัดการทั้งหมด เป็นที่ประทับใจและพอใจของผู้เข้าร่วมประชุม
โดยสรุปการประชุมครั้งนี้ มีความสำคัญคือเป็นปีที่เลือกตั้งประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชียคนใหม่ รวมไปถึงคณะกรรมการบริการ เป็นเรื่องที่น่ายินดีเนื่องจากประธานสหพันธ์ฯคนใหม่ยังอยู่ในโซอาเซียน ซึ่งก็ได้แก่ มิสเตอร์รามอน ซูซาร่า นายกสมาพันธ์วอลเลย์บอลแห่งฟิลิปปินส์ อีกเรื่องที่น่ายินดีคือหลังจากที่ได้มีการพูดคุยกัน ยืนยันว่าสำนักงานของสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชียยังคงตั้งอยู่ในประเทศไทยต่อไป ในช่วงที่เป็นประธานจะพยายามทำให้ประเทศไทยเป็นที่ตั้งถาวรของสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชีย เรากำลังดูสถานที่ตั้ง โดยจะซื้อเพื่อเป็นที่ตั้งถาวร นับว่าเป็นเรื่องที่ดี สามารถตอบสนองนโยบายของรัฐบาลที่อยากให้ประเทศไทยเป็นฮับของการกีฬา ส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว เรื่องเศรษฐกิจไปด้วย การประชุมในครั้งนี้ประสบความสำเร็จในทุกเรื่อง
ส่วนการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกในปีหน้า ประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติรวมไปถึงคณะกรรมการบริหาร ยืนยันจะให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ดูจากศักยภาพและความพร้อมตั้งแต่การแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นส์ ลีก ที่ผ่านมา รวมไปถึงความสำเร็จของทีมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นเจ้าภาพที่ดี กองเชียร์ที่มีมาตรฐานสูง ถือว่าเป็นเมืองวอลเลย์บอลที่แท้จริง นี่เป็นการตัดสินใจของคณะกรรการบริหารสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ ในส่วนความพร้อมของสมาคมวอลเลย์บอล เรายินดีที่จะ ตอบสนองต่อความต้องการของสหพันธ์ฯ การจะเป็นเจ้าภาพต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก ต้องขอให้รัฐบาลเป็นผู้ตัดสินใจ
สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติยืนยันจะให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในปีหน้า แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องรอรัฐบาล เราไม่สามารถตัดสินใจได้ในขณะนี้ เพราะต้องใช้งบประมาณที่เกินกำลังของเรา ก็ต้องรอรัฐบาล ซึ่งทางเอฟไอวีบีก็เข้าใจ ก็ต้องรอรัฐบาลจะตัดสินใจอย่างไร นั่นคือการตัดสินใจสุดท้ายที่เราจะได้เป็นเจ้าภาพที่แท้จริงหรือไม่”